+66-958482370info@diyaedu.com

FAQ - เรียนอินเดีย

Q 1 : Diya Education คือใคร ?

A : Diya Education คือผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวและวางแผนเรียนต่อต่างประเทศสำหรับนักเรียนไทยโดยเฉพาะ เรามีประสบการณ์ตรงกว่า 10 ปีทั้งการเรียนและทำงานจริงในต่างประเทศ (อินเดียและนิวซีแลนด์) พร้อมให้คำปรึกษาแบบใกล้ชิดเพื่อช่วยให้น้องๆ เลือกเส้นทางการศึกษาที่ตรงกับอนาคตมากที่สุด

 

Q 2 : ทำไมต้องเลือก Diya Education ?

A : เพราะทีม Diya Education เข้าใจทั้งผู้ปกครองและนักเรียนไทยเป็นอย่างดี

  • ประสบการณ์จริงในต่างประเทศกว่า 10 ปี

  • เชี่ยวชาญหลักสูตรอินเดีย นิวซีแลนด์ และนานาชาติ

  • แนะนำโรงเรียน–หลักสูตรตามงบประมาณและเป้าหมายอนาคต

  • ดูแลแบบครอบครัว ให้คำแนะนำตลอดเส้นทางตั้งแต่เริ่มจนถึงเดินทางไปถึงประเทศนั้นๆ

เราคือ “พี่เลี้ยงด้านการศึกษา” ที่พร้อมดูแลน้องอย่างมืออาชีพและจริงใจที่สุดค่ะ

 

Q 3 : พี่ๆ Diya Education ดูแลนักเรียนดีไหม ?

A : ดูแลเด็กนักเรียนและผู้ปกครองด้วยความใส่ใจเหมือนคนในครอบครัว

ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด

ติดตามประสานงานกับโรงเรียน

ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียน การอยู่ การใช้ชีวิต
หัวใจหลักของเราคือ “นักเรียนและผู้ปกครองคือครอบครัวของ Diya Education”

 

Q 4 : เรียนต่อต่างประเทศดียังไง ?

A : น้องๆ จะได้ใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ได้เพื่อนต่างชาติ เปิดโลกกว้าง และมีโอกาสทางการศึกษา–อาชีพที่มากขึ้นในอนาคต

 

Q 5 : ไม่เก่งภาษาไปได้ไหม?

A : ได้แน่นอนค่ะ โรงเรียนมีโปรแกรมสนับสนุนภาษาและครูที่เชี่ยวชาญด้านการสอนเด็กต่างชาติ ทำให้ปรับตัวได้ง่ายและพัฒนาภาษาเร็วมาก ขอแค่เปิดใจและตั้งใจเรียนค่ะ

 

Q 6 : ไปแล้วจะพูดภาษาอังกฤษได้จริงไหม ?

A : ได้แน่นอนค่ะ เพราะน้องจะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 100% ทั้งในห้องเรียนและกิจกรรมต่างๆ ทำให้การใช้ภาษาเป็นธรรมชาติมากขึ้นและพัฒนารวดเร็ว

 

Q 7 : ถ้าอยากไปเรียนกับ Diya Education ต้องทำอย่างไร?

A : เพียงติดต่อมาพูดคุยเกี่ยวกับระดับชั้น งบประมาณ เป้าหมาย หรืออาชีพที่น้องฝันไว้ ทีม Diya Education จะช่วยวางแผนและแนะนำโรงเรียนที่ดีที่สุดให้เหมาะกับอนาคตของน้องค่ะ

 

Q 8: หอพักปลอดภัยไหม? ลูกจะอยู่ได้หรือไม่?

A : หอพักของโรงเรียนในอินเดียมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
มีครูประจำหอ พี่เลี้ยง และกล้องวงจรปิดครบทุกจุด พร้อมระบบเข้า–ออกที่เข้มงวด
ผู้ปกครองสามารถสอบถามการดูแลได้ทุกเมื่อ ผ่าน Diya Education

 

Q 9 : ทำไมเด็กไทยจบ ม.3 ต้องไปเรียน ม.3 ที่อินเดียอีกครั้ง?

A : ที่อินเดีย ชั้นมัธยมปลายเริ่มตั้งแต่ Grade 9 (เทียบเท่า ม.3)


และหลักสูตร Cambridge IGCSE จะเรียนควบช่วง Grade 9–10 จึงไม่สามารถกระโดดไป Grade 10 (ม.4) ได้ค่ะ

 

Q 10: ลูกยังไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะตามการเรียนทันไหม?

A : โรงเรียนจัดโปรแกรมช่วยครบ เช่น
• คอร์สเสริมภาษาอังกฤษ (ESL)
• ครูติวหลังเลิกเรียน
• ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
เด็กส่วนใหญ่พัฒนาภาษาเร็วมากภายใน 1 เทอม

 

Q 11 : เด็กจะได้ฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวเองจริงไหม?

A : ได้แน่นอน เด็กจะได้ฝึก
• วางแผนตารางเรียน
• ดูแลของใช้ส่วนตัว
• ใช้ชีวิตกับเพื่อนต่างชาติ
พร้อมครูดูแลใกล้ชิดแบบ “ให้พื้นที่ แต่ไม่ปล่อยมือ”

 

Q 12 : ห้องเรียนมีแต่เด็กอินเดียไหม?

A : โรงเรียนพาร์ทเนอร์ของ Diya Education เป็นโรงเรียนนานาชาติสัดส่วนนักเรียนต่างชาติแตกต่างกันแต่ทุกโรงเรียน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

 

Q 13 : ลูกไม่เคยไปต่างประเทศ จะปรับตัวยากไหม?

A : Diya Education จัดเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางเมื่อถึงอินเดียจะมีทีมรับ–ส่งและดูแลช่วงแรกอย่างใกล้ชิด เด็กส่วนใหญ่ปรับตัวได้ดีมาก

 

Q 14 : การบ้านและการสอบหนักไหม?

A : ขึ้นกับหลักสูตร
IGCSE และ IB เน้นการวิเคราะห์และโปรเจกต์
ICSE/CBSE เน้นพื้นฐานแน่นและวินัย
Diya Education จะช่วยแนะนำหลักสูตรที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน

 

Q 15 : IGCSE เรียนยากไหม?

A : ช่วงแรกอาจยากเพราะเน้นวิเคราะห์และภาษาอังกฤษ
แต่เมื่อปรับตัวได้ เด็กจะสนุกเพราะเน้นปฏิบัติจริง ครูดูแลใกล้ชิด
นักเรียนต่างชาติหลายคนเรียนได้ดีมากค่ะ

 

Q 16 : หลักสูตร IB เหมาะกับใคร?

A : เหมาะกับเด็กที่…
• ชอบคิดวิเคราะห์
• กล้าแสดงความเห็น
• สนใจเรียนหลากหลายสาขา
• พร้อมรับความท้าทาย
เหมาะมากสำหรับเด็กที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศ

 

Q 17 : เด็กไทยจะอยู่กับวัฒนธรรมอินเดียได้ไหม?

A : โรงเรียนมีประสบการณ์ดูแลนักเรียนต่างชาติจำนวนมาก
มีทั้งเพื่อนชาวไทยและเพื่อนนานาชาติ ช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายมาก

 

Q 18 : เด็กไทยคนอื่นอยู่ด้วยกันไหม?

A : ช่วงแรกมักให้อยู่ใกล้กันเพื่อช่วยปรับตัว
หลังจากนั้นจะเปิดโอกาสให้มีเพื่อนต่างชาติ

 

Q 19 : อากาศที่บังกาลอร์เป็นยังไง?

A : อากาศดีที่สุดในอินเดีย อุณหภูมิ 25–30°C
กลางคืนเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัด เหมาะกับเด็กมากค่ะ

 

Q 20 : โรงเรียนมีกีฬาหรือไม่?

A : มีกีฬาให้เลือกหลากหลาย เช่น
ฟุตบอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ แบดมินตัน เทนนิส ขี่ม้า
ช่วยพัฒนาสุขภาพและทักษะการทำงานเป็นทีม

 

Q 21 : นอกจากกีฬา มีกิจกรรมเสริมอะไรบ้าง?

A : มีคลับมากมาย เช่น ดนตรี ศิลปะ ทำอาหาร การแสดง ถ่ายภาพอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้เด็กได้ค้นพบความสามารถของตัวเอง

 

Q 22 : ลูกไม่กินเผ็ด จะกินอะไรได้?

A : มีอาหารไม่เผ็ดทุกมื้อ เช่น
ข้าว ไข่ ซุป ผัก นม เด็กสามารถนำอาหารสำเร็จรูปจากไทยไปทานร่วมได้
เด็กไทยส่วนใหญ่ปรับตัวได้เร็วมาก

 

Q 23 : มีคนดูแลเวลาเจ็บป่วยไหม?

A : มีครูประจำหอและพยาบาล พร้อมพาไปโรงพยาบาลทันทีหากจำเป็น
และรายงานผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว

 

Q 24 : หากคิดถึงบ้าน จะมีใครดูแลไหม?

A : มีครูที่ปรึกษา Mental Health และครูหอคอยดูแลสามารถโทรหรือวิดีโอคอลกลับบ้านตามกฎโรงเรียน

 

Q 25 : เรียนอินเดียดียังไง?

A :

• ประเทศใช้ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย

• ระบบการศึกษามาตรฐานสากล
• ค่าเรียนถูกกว่าไทยมาก
• โรงเรียนปลอดภัย มีวินัยสูง
• หลักสูตรต่อยอดต่างประเทศได้ดี

 

 

Q 26 : ระบบเรียนยากไหม?

A : เด็กไทยหลายคนมาจากพื้นฐานอังกฤษไม่แข็งแรง แต่เมื่อได้รับการเสริม
ก็มักพัฒนาจนเรียนได้ดี และมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

Q 27 : ควรส่งลูกไปช่วงชั้นไหนดี?

A : โรงเรียนประจำอินเดียรับตั้งแต่ Grade 3 (ป.3)
ยิ่งไปเร็ว ปรับตัวง่าย ภาษาและวินัยดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

 

Q 28 : โรงเรียนประจำอินเดียปลอดภัยไหม?

A : ปลอดภัยมาก มีระบบคัดกรองคนเข้า–ออก
เด็กออกนอกโรงเรียนต้องได้รับอนุญาตทุกครั้ง
ผู้ปกครองเข้าเยี่ยมก็ต้องลงทะเบียนเช่นกัน

 

 

Q 29 : ควรเลือกหลักสูตรไหนดี?

A :

ICSE / CBSE (รัฐบาลอินเดีย)

• ภาษาอังกฤษ 100%
• ราคาประหยัด
• มีภาษาฮินดีเสริม

Cambridge / IB (อินเตอร์)                                                                                                        

• เน้นทักษะวิเคราะห์

• ค่าใช้จ่ายสูงกว่าแต่ต่อยอดต่างประเทศง่าย 

 

Q 30 : โรงเรียนอินเดียเปิดเรียนเดือนไหน?

A :
อินเตอร์ – เปิดเดือนสิงหาคม
หลักสูตรรัฐบาล – เปิดเดือนเมษายน

 

 

Q 31 : Pre-University คืออะไร?

A : เทียบเท่า ม.5–ม.6
เน้นเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยในอินเดียโดยเฉพาะ
เด็กจะเลือกสายเรียนเพื่อต่อยอดสาขาที่สนใจในอนาคต

 

 

Q 32 : ทำไมควรให้ลูกลอง Summer Camp ก่อน?

A : เพราะเด็กจะได้
• ทดลองเรียนจริงในห้องตามอายุ
• ใช้ชีวิตแบบเด็กหอจริงๆ
• รู้ว่าตัวเองปรับตัวได้หรือไม่
เป็นการช่วยตัดสินใจที่ดีที่สุดก่อนเรียนจริง